The Girl from Ipanema (Garota de Ipanema) ได้รับการเชิดชูให้เป็นเพลงที่ดังที่สุด ในบรรดาเพลงบอสซาโนวาทั้งหมด เป็นตัวจุดประกายปลุกกระแสความคลั่งไคล้ในลีลาดนตรีบราซิเลียนไปทั่วโลก ตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษหกสิบ จากผลงานของนักแซ็กโซโฟนแจ๊ส Stan Getz ร่วมกับศิลปินชาวบราซิล Joao Gilberto โดยมีนักร้องสาว Astrud Gilberto เป็นผู้ขับขาน ในอัลบั้ม Getz/Gilberto (1963) นอกจากนั้นยังคุยต่อได้อีกว่า ถ้าไม่นับเพลง Yesterday ของ The Beatles ซึ่งครองแชมป์ในฐานะเพลงที่ได้รับการบันทึกเสียงมากที่สุดในโลกแล้ว The Girl from Ipanema ก็ไม่เป็นรองใครอีก
มารู้จักกับเพลงดังนี้เป็นฉากๆกัน
Antonio Carlos Jobim คือ ตำนานที่ยิ่งใหญ่สุดของบอสซาโนวา เขาเป็นคีตกวี, นักเรียบเรียงเสียงประสาน, นักร้อง, นักเปียโน และนักกีตาร์ มีผลงานที่ได้รับการยกย่องขึ้นทำเนียบเพลงดีเด่นมากมาย เพลงของเขาเป็นส่วนสีสันของเพลงสแตนดาร์ดที่นักดนตรีนิยมเอามาเล่น และคอเพลงมีระดับชมชอบเสพ เขามีชื่อจริงว่า Antonio Carlos Brasileiro de Almeida Jobim ( เกิด 25 มกราคม 1927 สถานที่ Rio de Janeiro ตาย 8 ธันวาคม1994 สถานที่ New York City) มักจะเป็นที่รู้จักกันดี ในชื่อเล่น Tom Jobim ซึ่งคนบราซิลเขาอ่านกันว่า โทน แม่เห็นแววดนตรีตั้งแต่ยังเด็ก เลยเอาไปฝากตัวเรียนเปียโนกับครูชาวเยอรมัน Hans Joachim Koellreuter ผู้ลี้ภัยสงคราม ซึ่งมีดีกรีระดับคีตกวี อาจารย์ได้ปลูกฝังให้ได้ซึมซาบกับผลงานของ Debussy, Chopin, Ravel, Stravinsky, Rachmaninoff และ Villa-Lobos คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ของบราซิล ซึ่งเป็นเพื่อนกันกับอาจารย์ ต่อมาในช่วงวัยหนุ่ม โจบิมหันมาหลงเสน่ห์แจ๊สแนวคูล อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เขาชอบศิลปินเวสต์โคสต์อย่าง Gerry Mulligan, Chet Baker, Barney Kessel รวมไปถึงนักดนตรีสไตล์คูลคนอื่นๆ ตั้งแต่ช่วงอายุ 20 หนุ่มโทนตัดสินใจเบนเข็มจากความมุ่งหวังที่จะเป็นสถาปนิก หันมาทุ่มเทให้กับดนตรีอย่างเต็มตัว เริ่มต้นหาประสบการณ์จากไนท์คลับ แล้วค่อยแทรกตัวเข้าไปในห้องอัดเสียง เริ่มมีคนรู้จักจากผลงานร่วมกับ Vinícius de Moraes ในดนตรีประกอบละคร เรื่อง Orfeo do Carnaval เมื่อปี 1956 ซึ่งภายหลังได้ถูกนำไปสร้างเป็นหนัง Black Orpheus ต่อมาอีกสองปี João Gilberto นักร้องหน้าใหม่ เสียงนุ่มเสนาะ เอาผลงานของโทนไปนำเสนอในอัลบั้มชุดแรกของเขา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสดนตรีสายใหม่ เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในเวลาต่อมาว่า “บอสซาโนวา” ผลงานเพลงของโจบิมส่งออกนอกประเทศบราซิลสู่หูคนทั้งโลกเป็นครั้งแรกในปี 1962 ในอัลบั้ม Jazz Samba โดยฝีมือการตีความใหม่ของนักเป่าแซ็กเทเนอร์ Stan Getz และนักกีตาร์สายไนลอน Charlie Byrd โดดเด่นด้วยเพลง Desafinado ที่บังเอิญฮิตขึ้นมาด้วยความสดและแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เปิดทางให้โจบิมนำทัพยอดนักดนตรีบราซิเลียนขึ้นผงาดบนเวที Carnegie Hall แห่งนครนิวยอร์ก ในปีเดียวกันนั้น บอสซาโนวาฟีเวอร์ได้ระบาดอย่างหนักไปทุกแห่งหน งานเพลงของโจบิมเป็นแหล่งขุมทรัพย์ ให้เหล่าศิลปินรุมกันมาตักตวงกันอย่างไม่ขาดสาย อัลบั้มเพลงบอสซาปั๊มป์ออกมาจนเอ่อล้นตลาด วางทับซ้อนกันเกลื่อนแผงในร้านแผ่นเสียง จนเทร็นด์ถึงจุดอิ่มตัว แล้วค่อยจางหายไปในช่วงปลายทศวรรษหกสิบ โจบิมผู้พึงใจอยู่เบื้องหลังโดยนิสัยอยู่แล้ว หันไปจับงานดนตรีประกอบหนังแถวบ้านเกิด จนกระทั่งกลางช่วงทศวรรษแปดสิบ กระแสคลื่นดนตรีบราซิลลูกใหม่ได้หวนกลับมาอีกครั้ง ในฐานะพันธมิตรกับกลุ่มเวิร์ลด์มิวสิก อาจารย์ใหญ่โทนก็ต้องออกเดินสายอีก ตามคำเรียกร้อง จนกระทั่งไปแสดงอำลาที่คาร์เนกี้ ฮอล ในเดือนเมษายน 1994 ก่อนที่โทนจะปิดฉากชีวิตตัวเองอย่างฉับพลันด้วยโรคหัวใจล้มเหลวในเดือนสุดท้ายของปี
Heloísa Eneida Menezes Paes Pinto หรือเรียกกันสั้นๆ Helo Pinheiro สาวสวยวัย 18 คือ แรงดาลใจของเพลง The Girl From Ipanema นี้ โดยที่สาวน้อยซึ่งบ้านอยู่ที่ถนน Montenegro เขตละแวก Ipanema ของนคร Rio de Janeiro จะเดินผ่านร้าน Veloso Bar เพื่อจะไปยังชายหาดเป็นประจำทุกๆวัน เวโลโซบาร์ เป็นจุดนัดพบประจำของสองนักแต่งเพลงหนุ่มคู่หู Jobim และ Moraes ซึ่งมักจะมานั่งแกร่วกินเบียร์กันและเฮฮากับเพื่อนฝูงที่โต๊ะริมทางเท้า พร้อมทั้งฉวยโอกาสเหล่สาวๆที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วย สองหนุ่มเกิดปิ๊งในความงามของละอ่อน Heloísa ที่นวยนาดผ่านไปมาบ่อยครั้ง ทำให้เกิดแรงดาลใจขึ้นมา ในช่วงเวลานั้น Moraes กำลังแต่งเนื้อเพลงประกอบละครตลก ชื่อเพลง Menina que Passa (The Girl Who Passes By) แต่เนื้อร้องร่างแรกที่ได้มา ไม่เป็นที่ถูกใจของทั้งสองคน มาลงตัวกับเวอร์ชันใหม่ที่ได้ไอเดียจากสาวสวยนี้ โดยที่กว่าเจ้าตัวจะรู้ว่าเป็นนางเอกในเพลงดัง ก็อีก 2 ปีครึ่งให้หลัง
ณ วันนี้ สถานที่ซึ่งเป็นส่วนร่วมของตำนานเพลงนี้ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับเพลง Montenegro Street ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Vinicius de Moraes Street และร้านเหล้า Veloso Bar ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น A Garota de Ipanema แล้วยังมีสวนสาธารณะ Garota de Ipanema Park ใน Arpoador ซึ่งอยู่ใกล้ๆกันด้วย
คำแปลที่ถอดความใกล้เคียงกับเนื้อร้องต้นฉบับ จะได้ประมาณนี้
Girl From Ipanema