Thursday, December 24, 2009

Intervals (3)

.


เมื่อเรารู้จักหาและมีความแม่นยำในการแจงอินเตอร์วัลแล้ว คราวนี้เรามาเรียนรู้ถึงสรรพคุณของอินเตอร์วัลแต่ละคู่ ซึ่งสรรพคุณที่ว่านี้ เราวัดจากความเสนาะหูและความกระด้างหูจากการได้ฟังเหล่าอินเตอร์วัลทั้งหลาย

คอนโซเนนซ์(Consonance) และดิสโซเนนซ์(Dissonance)

ในทางฮาร์โมนีทัศนะเกี่ยวกับคอนโซเนนซ์ และดิสโซเนนซ์ โดยทั่วไปจะอ้างอิงถึงเสถียรภาพแห่งความสัมพันธ์ระหว่างเสียง นั่นคือ อินเตอร์วัลหรือคอร์ด เสถียรภาพที่กล่าวถึงนี้ มักจะอธิบายออกมาในรูปแบบของความ "ราบรื่น", "กลมกลืน" หรือ "คอนโซเนนซ์" (Consonance) เมื่อความสัมพันธ์ให้ความรู้สึกที่น่าอภิรมย์ หรือ คล้อยตาม ฟังเสนาะหู และเป็นความ "กระด้าง", "แปร่งหู" หรือ "ดิสโซเนนซ์" (Dissonance) สำหรับความสัมพันธ์ที่ให้ความรู้สึกไม่น่าอภิรมย์ หรือ ขัดความรู้สึก ฟังแล้วไม่เพราะ

ในการกำหนดกฎเกณฑ์ เพื่อนำมาตัดสินความเป็นคอนโซเนนซ์ และดิสโซเนนซ์นั้น นอกจากคุณสมบัติเฉพาะของตัวอินเตอร์วัลเอง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับการพิจารณาแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงองก์ประกอบอื่นๆที่เข้ามาแปรให้มีความเหลื่อมล้ำในความเป็นคอนโซเนนซ์ และดิสโซเนนซ์ด้วย

ลำดับแรกก็คือ พื้นฐานความรู้สึกของแต่ละบุคคล ซึ่งต่อมประสาทการรับรู้ต่อเสียงอยู่ในระดับไม่เท่ากัน บางคนอาจจะชอบฟังคู่หวานๆ แต่สำหรับบางคนต้องได้ยินเสียงแปร่งหู ถึงจะถูกใจ เปรียบเทียบให้เห็นชัดจากรสนิยมในทางด้านอาหาร ซึ่งบางคนชอบเผ็ด บางคนชอบเค็ม บางคนชอบรสจัด บางคนชอบรสนิ่ม เป็นต้น

ลำดับต่อมา เราจะต้องคำนึงถึงทางด้านวัฒนธรรมของแต่ละชนเผ่า ที่คุ้นเคยกับความเป็นคอนโซเนนซ์ และดิสโซเนนซ์ไม่เหมือนกัน สำหรับคนที่ชอบฟังเพลงประเภทเวิร์ลด์มิวสิก ได้สัมผัสกับความหลากหลายของดนตรีจากนานาประเทศ จะรู้ซึ้งถึงความแตกต่างของข้อนี้ได้ดี

และลำดับสุดท้าย ยุคสมัย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงด้วย อันนี้เห็นได้ชัดมากเลย ใกล้ๆตัวนี้เอง สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ที่ชอบฟังเพลงร็อกหนักๆ เฮฟวี่เมทัล หรืออัลเตอร์เนทีฟ หรือไม่ก็พวกแร็พ เป็นต้น จะรู้สึกว่าเพลงที่พวกเขาชอบ มันคอนโซเนนซ์เหลือเกิน ฟังสบาย แต่สำหรับพ่อแม่ของพวกเขาซึ่งอาจจะเป็นคอร็อก เมื่อเจเนอเรชันที่แล้ว พอมาฟังเพลงรุ่นลูกเข้าก็กลับเป็นความดิสโซเนนท์ที่ตัวเองรับไม่ได้ ทำให้ย้อนยุคคิดไปถึงเมื่อครั้งตัวเองยังเป็นหนุ่มเป็นสาว ที่เคยเปิดเพลงโปรดร่วมสมัยรุ่นนั้น ให้เป็นที่รำคาญของพ่อแม่มาแล้ว ก็เป็นการชดใช้กรรม รับช่วงกันเป็นทอดๆไป

โดยทั่วไปแล้ว ฮาร์โมนิกอินเตอร์วัลสามารถจัดเรียงได้จากลำดับของคู่เสนาะ(คอนโซเนนท์)ไปหาคู่กระด้าง(ดิสโซเนนท์) เริ่มต้นจากคู่สามและคู่หก ซึ่งดูเหมือนจะกลมกล่อมกว่า ไปสุดทางที่คู่สองและคู่เจ็ด ซึ่งดูจะกระด้างมากกว่า ในขณะที่คู่สี่และคู่ห้าจะดูเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่มันเข้าไปอยู่ สามารถกลมกลืนได้ทั้งทางเสนาะและกระด้าง เป็นตัวเชื่อมประสานที่ดี

เวลาที่ผมสอนลูกศิษย์เรื่องนี้ ผมมักจะยกตัวอย่างด้วยการนำเอาเสียงของอินเตอร์วัลเหล่านี้ไปสัมพันธ์กับภาพ เพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยให้จินตนาการถึงภาพเหตุการสถานการณ์ต่างๆ แล้วก็จะเล่นเปียโนเหมือนกับว่าเป็นเพลงประกอบหนัง โดยใช้อินเตอร์วัลที่เป็นคู่สามหรือคู่หกอย่างต่อเนื่อง ในลีลาราบเรียบ สำหรับบรรยากาศแบบโรแมนติก และเมื่อมาถึงฉากที่ตื่นเต้นเร้าใจ หรือสยองขวัญ ก็จะกระแทกคีย์ด้วยอินเตอร์วัลที่เป็นคู่สองหรือคู่เจ็ด อาจจะผสมคู่ไตรโทนเข้าไปด้วย ในจังหวะที่เร่งเร้า เป็นการสาธิตให้เห็นถึงผลของการใช้อินเตอร์วัลในการโน้มน้าวอารมณ์ของเราให้คล้อยตามไป

ลองเอาไปซ้อมทำเป็นการบ้านกันนะครับ ต่อไปเผื่อว่า มีคนมาจ้างให้ทำเพลงประกอบหนังโฆษณา หรือซาวด์แทร็กสำหรับหนังใหญ่ ก็รับงานได้อย่างมั่นใจ เพราะเคยมีประสบการณ์ผ่านการทำการบ้านมาแล้ว ผมไม่เคยผ่านคอร์สเรียนวิชาทำเพลงประกอบหนัง แต่ก็ได้ใช้หลักแนวคิดง่ายๆนี้ ทำเพลงโฆษณา จนได้รับรางวัลมาแล้ว

ตัวอย่างต่อไปนี้ แสดงถึงการเรียงตามลำดับที่เป็นไปได้แบบหนึ่ง




อย่าท่องจำยึดถือเป็นกฎตายตัวตามนี้นะครับ ! ลองพิจารณาจากตัวอย่าง ดูให้ดีหลายๆเที่ยว แม้ว่าโดยรวมจะเป็นที่ยอมรับได้ แต่หูของเราอาจจะไม่เห็นพ้องด้วยกับการจัดเรียงตามลำดับนี้ทุกอัน เราก็อาจจะสลับตำแหน่งบางลำดับ จัดเรียงใหม่ให้ถูกกับกิเลสหูของตัวเอง เป็นตารางอินเตอร์วัลอ้างอิงส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเห็นว่า อินเตอร์วัลคู่ไมเนอร์เซเวนธ์(m7) ฟังระรื่นหูกว่าอินเตอร์วัลคู่ออกเม็นเต็ดโฟธ (A4) เราก็จัดสลับตำแหน่งกัน หรือมีคู่อื่นอีกก็จัดปรับกันไป

แต่อย่าให้ถึงกับจัดรื้อใหม่ ขนาดย้ายกลับข้างกันเลย ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็คงต้องเชิญตัวมาตรวจสอบกันหน่อย เพื่อดูว่า คุณคืออัจฉริยะดนตรีคนใหม่ หรือ หูบอดกันแน่ ( อิ อิ อิ )



(ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นิตยสาร Overdrive ฉบับที่ 99 ตุลาคม 2006)




4 comments:

  1. อาจารย์ครับถ้าอยากไปเรียนกับอาจารยควรมีความรู้พื้นฐานอะไรบ้างครับ

    ReplyDelete
  2. ไม่จำกัดระดับพื้นฐานครับ ขอให้มีใจมุ่งมั่น ตั้งใจจริง หมั่นฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง รักในสิ่งที่ทำ เท่านี้น่าจะพอ

    ReplyDelete
  3. Gambling House - Casinos - Mapyro
    Search by 강릉 출장안마 revenue, 강원도 출장안마 location, gaming area and the like for real money in our directory of Casino 제주도 출장샵 Sites, Games, 창원 출장안마 Slots, Poker, Roulette, and 군산 출장마사지

    ReplyDelete